 
อินซูลิน (Insulin)
หลายคนรู้จักดี และหลายคนก็อาจจะไม่รู้ บางคนแค่เคยได้ยินชื่อ แต่อาจไม่รู้หน้าที่ของมัน ถ้าเรารู้จักมันละเอียด ยิ่งสนิทยิ่งหุ่นดี ยิ่งสุขภาพดี คุ้มมั้ยที่จะอ่าน?
ถ้าเราไม่อยากอ้วน อยากให้น้ำหนักตัวคงที่ ก็ต้องเอาเข้าน้อยกว่าเอาออก เพราะ..
ถ้าเรากินน้ำตาลเยอะเกินไป.. 
ที่เหลือใช้มันจะกลายเป็น Fat หรือ ไขมัน
ถ้าเรากินไขมันเยอะเกินไป..
ที่เหลือใช้มันจะกลายเป็น Triglyceride หรือ ไตรกลีเซอร์ไรด์ ซึ่งเป็นไขมันในเลือด ถ้ามีเยอะเกินไปจะพอกตามหลอดเลือดซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดอุดตันได้
ถ้าเรากินเนื้อสัตว์เยอะเกินไป..
ที่เหลือใช้มันจะกลายเป็น Triglyceride + Fat
ร่างกายมนุษย์เราไม่ธรรมดาเลย มันเก่งมากพอที่จะใช้แป้งหรือไขมันเป็นพลังงานก็ได้ แต่ถ้าเรากินน้ำตาลเข้าไปสูง เจ้าอินซูลินก็จะออกมาเยอะเกินไป และคอยขัดขวางการทำงานปกติของระบบเผาผลาญ (Metabolism)
อินซูลิน (Insulin) เกิดจากตับอ่อน มีหน้าที่จับน้ำตาล (Glucose) ไปส่งที่เซลล์เพื่อให้ร่างกายเอาไปใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้าปริมาณน้ำตาลสูงเกินไป ก็จะถูกนำไปสะสมไว้ในรูปของไขมัน และจะถูกนำกลับมาใช้เป็นพลังงาน เมื่ออินซูลินลดลง ซึ่งเรียกว่า FBZ (Fat Burning Zone) 
แต่ถ้าเรากินน้ำตาลเข้าไปอีก ในช่วงระหว่างมื้อ หรือเมื่อเกิดความอยาก (กินจุบจิบทั้งวัน) ตับก็จะสร้างอินซูลินออกมาจับน้ำตาลอีก ซึ่งถ้าอินซูลินกลุ่มเก่ายังไม่หมด มันจะลอยค้างอยู่มากๆ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำเอาไขมันเก่าออกมาใช้ได้
ถ้ากินข้าวเสร็จแล้วง่วง แสดงว่ากินน้ำตาลเยอะไป เมื่อง่วงเราก็จะหาอะไรใส่ปาก ซึ่งไม่พ้นของหวานหรือขนมขบเคี้ยว ตับอ่อนก็จะส่งอินซูลินออกมาอีก แล้วไขมันก็จะถูกพอกพูนไปเรื่อยๆ
ถ้าคุณกินดึก 4 ทุ่มขึ้นไป มื้อเช้าคุณก็ต้องกินตอนสายๆ มากๆ ร่างกายจึงจะมีช่วงเผาผลาญไขมัน เพราะการปล่อยให้ร่างกายอยู่ในภาวะอินซูลินท่วมเป็นระยะเวลานานๆ อาจทำให้คุณ ป่วยเป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2 และกลุ่มโรคชุดไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง ความดัน หัวใจ และอาจแถมด้วยมะเร็ง
เราจึงควรกินโปรตีนให้ถึง กินไขมันให้พอดี และควบคุมน้ำตาล และออกกำลังกายบ้าง
บวกกับวิธีกินอาหารที่ถูกต้อง คือกฎ 4 - 4 - 12
มื้อเช้า ควรห่างจากมื้อกลางวัน 4 - 5 ชั่วโมง
มื้อกลางวัน ควรห่างจากมื้อเย็น 4 - 5 ชั่วโมง
มื้อเย็น ควรห่างจากมื้อเช้า 12 - 14 ชั่วโมง
เพื่อให้ร่างกายมีช่วง FBZ หรือนำเอาไขมันเก่ามาใช้
FBZ (Fat Burning Zone) ถ้าคุณหงุดหงิดนั่นเป็นเพราะน้ำตาลต่ำ เมื่อน้ำตาลตก คุณจะง่วง และหิว แต่ถ้าคุณกิน ร่างกายจะไม่ได้เอาไขมันเก่าออกมาใช้ ดังนั้น คุณต้องฝืน อดทนและอดกลั้น
ตับ ทำหน้าที่สร้างคลอเรสเตอรอลเองถึง 80% มาเป็นน้ำดีเพื่อออกมาช่วยย่อย เมื่อย่อยเสร็จจะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารที่มีคลอเรสเตอรอลสูงมานาน จึงไม่แปลกเลยที่จะมีคลอเรสเตอรอลค้างอยู่ในเลือดสูง
มาถึงตรงนี้เริ่มหนักใจรึยัง ว่าแล้วจะกินยังไง หลายคนอาจมองว่า วิธีลดความอ้วนเยอะแยะ ใช่คับ แต่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุนะ ยังไงก็ไม่จบไม่สิ้น จะดีกว่ามั้ยถ้าแก้ที่ต้นเหตุได้?| หน้าที่เข้าชม | 72,343 ครั้ง | 
| ผู้ชมทั้งหมด | 53,182 ครั้ง | 
| เปิดร้าน | 18 มิ.ย. 2558 | 
| ร้านค้าอัพเดท | 18 เม.ย. 2568 | 
